โปรแกรมการรับรองของเราส่งเสริมวิธีการเติบโตอย่างชาญฉลาด Rainforest Alliance ช่วยปรับปรุงการดูดซึมของดินและการกักเก็บความชื้น ทำให้รากของต้นกาแฟสามารถเข้าถึงน้ำจากส่วนลึกในดินในฤดูแล้งได้
COFFEE
ทำไมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้ถ้วยกาแฟ RE-USED
ปัจจุบันผู้คนมักจะใช้ถ้วยกาแฟที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ หากพวกเขาเห็นคนอื่นใช้กัน หรือหากเจ้าของร้านกาแฟคิดเงินเพิ่มสำหรับถ้วยกาแฟแบบใช้แล้วทิ้ง .. มันเป็นพฤติกรรมการเลียนแบบ หรือเป็นแนวโน้มที่ผู้คนประหยัดมากขึ้น ?
เรามาหากันว่า จริงๆแล้ว ทำไมผู้บริโภคถึงนิยมเปลี่ยนไปใช้แก้วกาแฟแบบ Re-Used กันมากขึ้น
ดื่มกาแฟแบบเป็นมิตรกับโลก
น้ำหนักต่อน้ำหนัก กาแฟที่ผลิตด้วยวิธีการที่ยั่งยืนน้อยที่สุดจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากพอๆ กับชีสและมีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพียงครึ่งหนึ่งของผู้กระทำผิดที่เลวร้ายที่สุดคนหนึ่ง นั่นคือ เนื้อวัว และนั่นคือทั้งหมดก่อนที่จะเติมนมซึ่งมีต้นทุนการค่าทำลายสิ่งแวดล้อม(โดยรวม)มากมายไม่แพ้กัน
กาแฟจากแล็บ (LAB-grown Coffee)
เพาะจากเซลล์ ไม่ต้องถางที่ทำไร่-ลดการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ นักดื่มกาแฟในอนาคตอาจกำลังจิบกาแฟที่มาจากจานเพาะเซลล์ แทนที่จะมาจากไร่กาแฟ นักวิทยาศาสตร์ชาวฟินแลนด์ที่อยู่เบื้องหลังเทคนิคใหม่ที่จะปลูกกาแฟที่พวกเขาคาดหวังว่า จะเป็นกาแฟที่ยั่งยืนจากในห้องแล็บ Heiko Rischer นักวิทยาศาสตร์บอกกับว่า “นี่คือกาแฟจริงๆ เพราะไม่มีอะไรอื่นนอกจากส่วนประกอบของกาแฟ”
ประโยชน์ทางโภชนาการของกาแฟ
ดื่มกาแฟยามเช้าที่ชื่นชอบเป็นประจำ ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ . . . . . ตรงกันข้าม มีหลักฐานจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าการบริโภคกาแฟที่มีคาเฟอีนไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็ง อันที่จริงการบริโภคกาแฟมาตรฐาน 3 ถึง 5 ถ้วยต่อวันมีความเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องกับการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายชนิด
ปลูกกาแฟใต้ร่มเงา(ต้นไม้ใหญ่)ในป่า
การกาแฟปลูกภายใต้ต้นไม้อื่นที่ให้ร่มเงาในสภาพป่าตามธรรมชาติ ส่งผลดีต่อเมล็ดกาแฟที่เก็บเกี่ยวผลเชอรี่ได้ เพราะกาแฟมักชอบร่มเงา และการปลูกกาแฟใต้ร่มเงาจะไม่เป็นการทำลายที่ดินจากการได้รับแสงแดดมากเกินไป ทำให้ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณโดยรอบ การปลูกกาแฟแบบใต้ร่มเงาของต้นไม้นานาพันธุ์เป็นการรวมเอาหลักการของนิเวศวิทยาธรรมชาติเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางนิเวศวิทยาตามธรรมชาติ
การปลูกกาแฟแบบดั้งเดิมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
ในขณะที่การปลูกกาแฟแบบดั้งเดิมใต้ร่มไม้ในป่าไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงหรือใส่ปุ๋ยแต่อย่างใด เพราะธรรมชาติช่วยควบคุมศัตรูตามธรรมชาติและเติมปุ๋ยให้อยู่ตลอดเวลา เรียกว่าเป็นการปลูกแบบอินทรีย์ที่สมบูรณ์และมีความยั่งยืนสูงมาก ศูนย์วิจัยนกอพยพของสถาบันสมิธโซเนียนในสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่บุกเบิกและส่งเสริมแนวคิดการปลูกกาแฟใต้ร่มไม้ (shade-grown coffee)