ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รับรู้ถึงภัยจากโลกร้อน เราคงได้เห็นโลกแปรปรวนเพิ่มขึ้นจนเป็นข่างให้เราเห็นอยู่บ่อย จนแทบจะเป็นข่างรายวัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า กิจกรรมต่างของมนุษย์เป็นต้นเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้โลกเปลี่ยนแปลง แบบพลิกฟ้ากลับผืนดินได้ขนาดนี้
อุณหภูมิโลกสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิในศตวรรษที่ 20 กว่า 1 องศา น้ำแข็งขั้วโลกละลายตัวแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งความถี่และความรุนแรง น้ำทะเลสูงขึ่น พื้นที่ชายฝั่งตามแนวประเทศต่างๆสูงขึ้นจนกระทบชีวิตผู้คน เกิดไฟป่ารุนแรงจนเกินรับมือในหลายประเทศทั่วโลก ความแปรปรวนของสภาพอากาศยังทำให้เกิดฝนหนักรุนแรง น้ำท่วมใหญ่ในเขตเมือง ตึกรามบ้านช่องถูกทำลาย รวมทั้งคร่าชีวิตมนุษย์ไปจำนวนไม่น้อยในปีที่ผ่านมา
ผืนป่าถูกทำลายลงเกือบ 30 ล้าน (30,000,000) ไร่ทุกปี หรือถ้าให้นึกภาพง่ายๆ ก็พื้นที่ป่าไม้ภูเขาแม่น้ำในขนาดประมาณประเทศสวิสบวกกับเกาะฮ่องกงที่หายไปทุกปี และยังมีสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ป่าอีก กว่าหนึ่งล้าน (1,000,000)สายพันธ์กำลังเสี่ยงที่จะสูญพันธ์และตายจากโลกนี้ไปตลลอดกาล
แน่นอน ความผิดเพี้ยนของสมดุลธรรมชาติที่ปกติจะคอยปกป้องพวกเราจากโรคภัยอันตรายก็ถูกกระทบด้วย !! เจ้ามหันตภัยที่ยึดกุมโลกของเราอย่างโควิท-19 ที่ กว่า 2 ปีที่ผ่านมา เป็นสัญญาณเตือนถึงหัยนะครั้งถัดไปที่คงจะเกิดต่อเนื่อง ตราบเท่าที่มนุษย์ที่เป็นตัวการเร่งทำลายความสมดุลนี้ ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทำร้ายโลก
ยังมีหวังถ้าพวกเราช่วยกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นคงไม่อาจถูกแก้ไชได้ในเร็ววัน หรือด้วยน้ำมือใครคนใดคนหนึ่ง หรือแม้แต่ประเทศใดประเทศหนึ่ง …. แต่เชื่อไหมครับ มันก็ใช่ว่าจะหมดหวัง หมดหนทางทีเดียว
เราสามารถทำอะไรได้ตั้งมากมายหลายอย่าง โดยเริ่มที่กับสิ่งละอันพันละน้อยใกล้ตัวเรา ภายในครัวเรือนของเรา สวนหลังบ้านของเรา อาทิ เริ่มจากการรีไซเคิลภาชนะ และบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว การปลูกต้นไม้หลังบ้าน จะลงดินหรือใส่กระถาง ปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ไม่เย็นจนเกินจำเป็น ใช้น้ำประหยัด หรือจะบอกต่อคนรอบข้าง ช่วยกันแชร์เรื่องนี้ออกไปให้เพื่อนหรือญาติมิตรของเรา ช่วยกันรับรู้ปัญหาและก็ช่วยกัน …… ที่ต้องทำ ก็เพียงแค่ลงมือเท่านั้น !!